เลือกผ้าแบบไหนถึงจะใส่สบาย

เลือกผ้าแบบไหนถึงจะใส่สบาย ไม่อับ ไม่ร้อนในหน้าร้อนนี้

หน้าร้อนเมืองไทยกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวเป็นของคู่กัน การเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เรารู้สึกสบายตัวตลอดวัน แต่ยังช่วยลดปัญหาผิวหนังที่อาจเกิดจากความอับชื้นได้อีกด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำชนิดของเนื้อผ้าที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆ แบบบ้านเรา ใส่แล้วเย็นสบาย ไม่อับ ไม่ร้อนอย่างแน่นอนครับ

1. ผ้าฝ้าย (Cotton)

คุณสมบัติเด่น: ยืนหนึ่งเรื่องความสบาย! ผ้าฝ้ายเป็นเส้นใยธรรมชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม เนื้อผ้านุ่ม สวมใส่สบาย ดูดซับเหงื่อได้ดี และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง
เหมาะกับ: เสื้อยืด, เสื้อเชิ้ตลำลอง, ชุดเดรส, กางเกง, ชุดนอน หรือแม้แต่ชุดชั้นใน
ข้อควรรู้: ผ้าฝ้ายอาจจะยับง่าย และแห้งช้ากว่าผ้าบางชนิด แต่ก็มีผ้าฝ้ายบางประเภทที่ผ่านการ xử lý (เช่น Mercerized Cotton) ที่จะมีความมันเงา ยับยากขึ้น และสีคงทนขึ้น

2. ผ้าลินิน (Linen)

คุณสมบัติเด่น: อีกหนึ่งสุดยอดผ้าสำหรับหน้าร้อน! ผ้าลินินทำจากเส้นใยของต้นแฟลกซ์ มีความแข็งแรงทนทาน เนื้อผ้ามีเท็กซ์เจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ ดูดซับความชื้นและระบายอากาศได้ดีเยี่ยมยิ่งกว่าผ้าฝ้าย ทำให้รู้สึกเย็นสบายเมื่อสวมใส่
เหมาะกับ: เสื้อเชิ้ต, กางเกง, ชุดเดรส, เบลเซอร์สำหรับหน้าร้อน
ข้อควรรู้: ผ้าลินินยับง่ายมาก ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผ้าชนิดนี้ แต่ถ้าใครไม่ชอบความยับ อาจจะต้องรีดบ่อยหน่อย หรือเลือกผ้าลินินผสม (Linen Blend) ที่มีการผสมเส้นใยอื่นเข้าไปเพื่อลดการยับ

3. ผ้าเรยอน (Rayon) / วิสโคส (Viscose)

คุณสมบัติเด่น: ผ้าเรยอน (หรือที่มักเรียกว่า วิสโคส) เป็นผ้าที่ผลิตจากเซลลูโลสของพืช (เช่น เยื่อไม้) มีคุณสมบัติคล้ายผ้าฝ้ายและผ้าไหม คือเนื้อผ้านุ่มลื่น ทิ้งตัวสวยงาม ระบายอากาศได้ดี และดูดซับความชื้นได้ ทำให้ใส่แล้วรู้สึกเย็นสบาย
เหมาะกับ: เสื้อเบลาส์, ชุดเดรส, กระโปรง, กางเกงทรงหลวมๆ
ข้อควรรู้: ผ้าเรยอนอาจจะไม่แข็งแรงเท่าผ้าฝ้ายเมื่อเปียกน้ำ และบางชนิดอาจหดตัวได้เมื่อซัก ควรดูแลตามคำแนะนำบนป้ายเสื้อผ้าอย่างเคร่งครัด

4. ผ้าแชมเบรย์ (Chambray)

คุณสมบัติเด่น: มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นผ้ายีนส์บางๆ แต่จริงๆ แล้วผ้าแชมเบรย์มีวิธีการทอที่แตกต่าง ทำให้เนื้อผ้าเบากว่า นุ่มกว่า และระบายอากาศได้ดีกว่าผ้ายีนส์ทั่วไป ให้ลุคที่คล้ายยีนส์แต่ใส่สบายกว่าในหน้าร้อน
เหมาะกับ: เสื้อเชิ้ต, ชุดเดรส, จั๊มพ์สูท
ข้อควรรู้: เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ชอบลุคเดนิมแต่ไม่อยากทนร้อน

5. ผ้าเซียร์ซัคเกอร์ (Seersucker)

คุณสมบัติเด่น: ผ้าที่มีเอกลักษณ์ตรงพื้นผิวที่ไม่เรียบ มีรอยย่นเล็กๆ สลับกัน (puckered texture) ซึ่งช่วยให้ผ้าไม่แนบติดผิวหนัง ทำให้มีช่องว่างให้อากาศไหลผ่านได้ดีเยี่ยม จึงรู้สึกเย็นสบายเมื่อสวมใส่ และแทบไม่ต้องรีด!
เหมาะกับ: เสื้อเชิ้ต, สูทสำหรับหน้าร้อน, กางเกงขาสั้น, ชุดเดรส
ข้อควรรู้: เป็นผ้าที่นิยมมากในแถบประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น ให้ลุคที่ดูคลาสสิกและมีสไตล์

6. ผ้าใยกัญชง (Hemp)

คุณสมบัติเด่น: เป็นเส้นใยธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความแข็งแรงทนทาน ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม คล้ายผ้าลินิน แต่จะนุ่มขึ้นเมื่อผ่านการซักหลายครั้ง และยังมีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวีได้อีกด้วย
เหมาะกับ: เสื้อผ้าลำลองต่างๆ, กางเกง, กระเป๋า
ข้อควรรู้: เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับสายรักษ์โลก

ผ้าที่ควรหลีกเลี่ยงในหน้าร้อนจัด:

  • โพลีเอสเตอร์ (Polyester) หนาๆ: ถึงแม้โพลีเอสเตอร์บางชนิดจะแห้งไว แต่โดยทั่วไปมักไม่ค่อยระบายอากาศ ทำให้รู้สึกร้อนและอับชื้นได้ง่าย
  • ไนลอน (Nylon): คล้ายโพลีเอสเตอร์ คือไม่ค่อยระบายอากาศ เหมาะกับเสื้อผ้าที่ต้องการความทนทานหรือกันน้ำมากกว่าใส่ในชีวิตประจำวันท่ามกลางอากาศร้อน
  • อะคริลิค (Acrylic): มักใช้ทำเสื้อผ้ากันหนาว เพราะกักเก็บความร้อนได้ดี จึงไม่เหมาะกับหน้าร้อน
  • หนังแท้/หนังเทียมหนาๆ: แม้จะดูเท่ แต่ไม่เหมาะกับอากาศร้อนจัด เพราะจะทำให้อบและอึดอัดมาก

การเลือกเนื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศจะช่วยให้คุณรู้สึกสบายตัวและมั่นใจได้ตลอดทั้งวัน อย่าลืมอ่านป้ายการดูแลรักษาเสื้อผ้า (Care Label) เพื่อให้เสื้อผ้าตัวโปรดของคุณอยู่กับคุณไปนานๆ นะครับ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Comment

Name

Home Shop Cart 0 Wishlist Account
Shopping Cart (0)

No products in the cart. No products in the cart.