เทคนิคการเลือกเสื้อผ้าจากโทนสีผิว ใส่แล้วไม่พลาดแน่นอน
เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมเสื้อผ้าสีเดียวกัน บางคนใส่แล้วดูผิวผ่องออร่าจับ แต่พอเราใส่บ้างกลับดูหมองคล้ำ? คำตอบส่วนหนึ่งอยู่ที่ “โทนสีผิว” (Skin Undertone) ของเรานั่นเองค่ะ การเลือกสีเสื้อผ้าให้เข้ากับโทนสีผิวจะช่วยขับผิวให้ดูสดใส เปล่งปลั่ง และเสริมบุคลิกให้ดูดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ วันนี้เรามีเทคนิคการเลือกเสื้อผ้าจากโทนสีผิวแบบง่ายๆ มาฝาก รับรองว่าแต่งตัวครั้งต่อไปไม่มีพลาดแน่นอน!
ทำความรู้จักกับโทนสีผิว (Skin Undertone) ของคุณ
ก่อนอื่น เราต้องรู้ก่อนว่าเรามีอันเดอร์โทนสีผิวแบบไหน โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ:
- โทนอุ่น (Warm Undertone): ผิวจะมีเม็ดสีเหลือง พีช หรือทองเป็นพื้นฐาน เส้นเลือดที่ข้อมือมักจะเห็นเป็นสีเขียว ตากแดดแล้วผิวจะคล้ำแทนได้ง่าย เหมาะกับเครื่องประดับสีทอง
- โทนเย็น (Cool Undertone): ผิวจะมีเม็ดสีชมพู แดง หรือฟ้าเป็นพื้นฐาน เส้นเลือดที่ข้อมือมักจะเห็นเป็นสีน้ำเงินหรือม่วง ตากแดดแล้วผิวจะแดงหรือไหม้ได้ง่าย เหมาะกับเครื่องประดับสีเงิน
- โทนธรรมชาติ/เป็นกลาง (Neutral Undertone): ผิวจะมีความสมดุลระหว่างโทนอุ่นและโทนเย็น เส้นเลือดที่ข้อมืออาจเห็นเป็นทั้งสีเขียวและสีน้ำเงิน หรือสีเขียวอมน้ำเงิน สามารถใส่เครื่องประดับได้ทั้งสีทองและสีเงิน และเข้ากับเสื้อผ้าได้หลากหลายสี
วิธีเช็คง่ายๆ: ลองยืนในแสงธรรมชาติแล้วดูสีเส้นเลือดที่ข้อมือ หรือลองเทียบผิวกับกระดาษสีขาว ถ้าผิวดูออกเหลืองคือโทนอุ่น ถ้าออกชมพูคือโทนเย็น ถ้าไม่ชัดเจนไปทางใดทางหนึ่งอาจเป็นโทนธรรมชาติ
สีเสื้อผ้าที่ใช่สำหรับแต่ละโทนสีผิว
1. สาวผิวโทนอุ่น (Warm Undertones)
สีที่ใช่: กลุ่มสีเอิร์ธโทนจะขับผิวคุณให้ดูสวยเป็นธรรมชาติมากๆ รวมถึงสีโทนร้อนที่สดใส
- สีเอิร์ธโทน: สีน้ำตาล (Brown), สีแทน (Tan), สีเบจ (Beige), สีเขียวมะกอก (Olive Green), สีส้มอิฐ (Terracotta), สีมัสตาร์ด (Mustard Yellow)
- สีโทนร้อน: สีแดงอมส้ม (Red-Orange), สีส้มคอรัล (Coral), สีพีช (Peach), สีเหลืองทอง (Golden Yellow), สีบรอนซ์ (Bronze)
- สีเขียว: สีเขียวมอส (Moss Green), สีเขียวขี้ม้า
สีที่ควรเลี่ยง: สีโทนเย็นจัดๆ ที่มีอันเดอร์โทนฟ้าหรือม่วงเข้ม เช่น สีฟ้าเบบี้บลู (Baby Blue), สีชมพูบานเย็นจัดๆ (Bright Fuchsia), สีเงินเมทัลลิค เพราะอาจทำให้ผิวดูซีดหรือเหลืองกว่าเดิม
2. สาวผิวโทนเย็น (Cool Undertones)
สีที่ใช่: กลุ่มสีจิวเวลโทน (Jewel Tones) หรือสีอัญมณีจะช่วยขับผิวให้ดูผ่อง สดใส และสีโทนเย็นต่างๆ
- สีจิวเวลโทน: สีน้ำเงินไพลิน (Sapphire Blue), สีม่วงอเมทิสต์ (Amethyst Purple), สีเขียวมรกต (Emerald Green), สีแดงทับทิม (Ruby Red)
- สีโทนเย็น: สีฟ้าเบบี้บลู (Baby Blue), สีชมพูอ่อน (Pastel Pink), สีชมพูราสเบอร์รี (Raspberry), สีม่วงลาเวนเดอร์ (Lavender), สีเทา (Gray)
- สีคลาสสิก: สีขาวสว่าง (Bright White), สีดำสนิท (True Black)
สีที่ควรเลี่ยง: สีโทนอุ่นจัดๆ เช่น สีส้มแปร๊ด, สีเหลืองสด, สีน้ำตาลอมเหลือง เพราะอาจทำให้ผิวดูหมองหรือซีดเซียวได้
3. สาวผิวโทนธรรมชาติ/เป็นกลาง (Neutral Undertones)
สีที่ใช่: โชคดีที่สุด! เพราะคุณสามารถใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายสี ไม่ว่าจะเป็นโทนร้อนหรือโทนเย็น อย่างไรก็ตาม สีที่มักจะดูดีเป็นพิเศษคือสีที่ไม่สดหรือจัดจ้านจนเกินไป
- สีที่ดูดีเป็นพิเศษ: สีชมพูกลีบบัว (Dusty Pink), สีเขียวหยก (Jade Green), สีฟ้าอ่อนๆ (Soft Blue), สีเทาอมฟ้า (Blue-Gray)
- สามารถใส่ได้ทั้ง: สีโทนร้อนและโทนเย็น แต่ลองสังเกตดูว่าสีไหนที่ทำให้ใบหน้าดูสว่างสดใสเป็นพิเศษ
ข้อควรระวัง: แม้จะใส่ได้หลายสี แต่ควรระวังสีที่สว่างจ้าหรือนีออนมากๆ เพราะอาจจะกลืนสีผิวของคุณได้ ลองเลือกเฉดที่ดูนุ่มนวลลงมาหน่อยจะปลอดภัยกว่า
เคล็ดลับเพิ่มเติม:
- สีขาวและสีดำ: เป็นสีเบสิกที่ส่วนใหญ่ใส่ได้ แต่คนผิวโทนอุ่นอาจจะดูดีกว่าในสีขาวครีม (Off-white/Cream) ส่วนคนผิวโทนเย็นจะดูดีในสีขาวสว่าง (Bright White) สำหรับสีดำ คนผิวโทนเย็นมักจะใส่แล้วขึ้นกว่า
- อย่ากลัวที่จะทดลอง: กฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นเพียงแนวทาง ลองหยิบเสื้อผ้าสีต่างๆ มาทาบกับใบหน้าในแสงธรรมชาติเพื่อดูว่าสีไหนที่ทำให้คุณดูสดใสที่สุด
- ความมั่นใจคือสิ่งสำคัญ: สุดท้ายแล้ว หากคุณรักสีไหนและใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ ก็จงใส่มัน! แฟชั่นคือการแสดงออกถึงความเป็นตัวคุณ
การเข้าใจเรื่องโทนสีผิวจะช่วยให้การเลือกซื้อเสื้อผ้าสนุกและง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ รับรองว่าคุณจะค้นพบสีที่ใช่ ใส่แล้วปัง ดูดีมีออร่า จนใครๆ ก็ต้องทักแน่นอน!