ถอดรหัสสำนวน “เรื่องกล้วยๆ”: ที่มาและความหมายจากวิถีชีวิตคนไทย
ในภาษาไทย มีสำนวนและคำพังเพยมากมายที่หยิบยืมเอาสิ่งรอบตัวจากธรรมชาติมาใช้เปรียบเทียบเพื่อสื่อความหมายให้เห็นภาพชัดเจน และ “กล้วย” ก็คือหนึ่งในพืชที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายที่สุด การที่กล้วยแทรกซึมเข้ามาอยู่ในบทสนทนาประจำวันของเรา สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันและคุ้นเคยที่คนไทยมีต่อพืชชนิดนี้เป็นอย่างดี บทความนี้จะพาไปถอดรหัส 3 สำนวนยอดฮิตที่เกี่ยวกับกล้วย ว่ามีที่มาและแฝงความหมายไว้อย่างไรบ้าง
1. เรื่องกล้วยๆ / ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
นี่คือสำนวนที่ได้ยินบ่อยที่สุดและใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกยุคทุกสมัย
- ความหมาย: หมายถึง เรื่องที่ง่ายมาก, ทำได้สำเร็จโดยไม่ลำบาก, ไม่มีความซับซ้อนใดๆ
- ที่มาและความเชื่อมโยง:
ที่มาของสำนวนนี้ตรงไปตรงมาและเห็นภาพได้ชัดเจนที่สุด การ “ปอกกล้วย” โดยเฉพาะกล้วยสุกนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง ไม่ต้องใช้มีดหรืออุปกรณ์ใดๆ แค่ใช้มือบิที่ปลายผล เปลือกก็พร้อมจะแยกออกจากเนื้อให้เรานำเข้าปากได้ทันที เมื่อเทียบกับการปอกผลไม้ชนิดอื่น เช่น ทุเรียน หรือ มะพร้าว ที่ต้องใช้ทั้งแรงและอุปกรณ์มากมาย การปอกกล้วยจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ความง่ายดาย” ในความคิดของคนไทยไปโดยปริยาย
- ตัวอย่างการใช้: “ไม่ต้องห่วงเลย การบ้านข้อนี้น่ะ เรื่องกล้วยๆ เดี๋ยวฉันสอนให้” หรือ “การติดตั้งโปรแกรมนี้ ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แค่คลิกไม่กี่ครั้งก็เสร็จแล้ว”
2. เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
แม้จะไม่มีคำว่า “กล้วย” อยู่ในสำนวนโดยตรง แต่ที่มาของสำนวนนี้กลับเกี่ยวข้องกับ “ใบตอง” หรือใบกล้วยอย่างแยกไม่ออก
- ความหมาย: หมายถึง การมองเห็นสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ผิด กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือดีงามไป, หลงผิดคิดว่าความชั่วคือความดี
- ที่มาและความเชื่อมโยง:
สำนวนนี้มีที่มาจากนิทานชาดกทางพระพุทธศาสนา แต่ในวิถีชีวิตของคนไทย มีการเปรียบเทียบกับการประดิษฐ์กระทงหรือพานบายศรีด้วย “ใบตอง” คนโบราณจะนำใบตองมาฉีกและพับเป็นกลีบซ้อนกันเป็นรูปทรงที่สวยงามคล้าย “ดอกบัว” แต่ในขณะเดียวกัน หากนำใบตองมาม้วนขดเป็นวงกลมหลายๆ ชั้น ก็จะดูคล้ายกับ “กงจักร” ซึ่งเป็นอาวุธที่มีความแหลมคมและอันตราย ดังนั้น สำนวนนี้จึงเป็นการเปรียบเปรยว่า วัตถุดิบเดียวกัน (ใบตอง) สามารถสร้างสรรค์ให้เป็นได้ทั้งของสวยงาม (ดอกบัว) และของอันตราย (กงจักร) ขึ้นอยู่กับมุมมองและการกระทำของคน เปรียบได้กับการที่คนเราหลงผิด มองเห็นการกระทำที่ชั่วร้ายเป็นเรื่องที่ดีงามไป
- ตัวอย่างการใช้: “เขาเตือนเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง ยังคง เห็นกงจักรเป็นดอกบัว คิดว่าเพื่อนคนนั้นหวังดีด้วยจริงๆ”
3. ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
สำนวนนี้ก็เช่นกัน แม้จะไม่มีคำว่า “กล้วย” แต่ก็มีความเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับกล้วย
- ความหมาย: หมายถึง การลงทุนลงแรงไปในสิ่งที่ได้ผลตอบแทนไม่คุ้มค่า, การทำอะไรที่ไม่สมกับประโยชน์ที่จะได้รับ, การกระทำที่สูญเปล่า
- ที่มาและความเชื่อมโยง:
ในสมัยก่อน คนไทยนิยมใช้ “หยวกกล้วย” หรือแกนกลางของลำต้นกล้วยมาทำเป็นอาหารสัตว์ โดยเฉพาะหมู หรือนำมาทำเป็นกระทงสำหรับใส่อาหาร การ “ตำน้ำพริก” ซึ่งเป็นของที่มีรสชาติเข้มข้นและใช้เครื่องปรุงมากมาย แต่กลับนำไปเท “ละลายแม่น้ำ” ซึ่งกว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุด จึงเป็นการกระทำที่สูญเปล่าโดยสิ้นเชิง เช่นเดียวกับการนำอาหารดีๆ ไปให้สัตว์ที่กินทุกอย่างโดยไม่รับรู้รสชาติ หรือการลงทุนมหาศาลไปกับสิ่งที่ไม่ให้ผลตอบแทนกลับคืนมาเลย
- ตัวอย่างการใช้: “การทุ่มเงินโฆษณามหาศาลกับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ก็เหมือนการ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ นั่นเอง”
สำนวนเหล่านี้เป็นมากกว่าแค่ถ้อยคำ แต่เป็น “บันทึกทางวัฒนธรรม” ที่แสดงให้เห็นว่า กล้วยไม่ได้เป็นแค่อาหาร แต่เป็นส่วนหนึ่งของความคิดและวิถีชีวิตของคนไทยที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นผ่านภาษาที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้